share

9 เทคโนโลยีที่สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ งานแสดงสินค้าคุณดูแตกต่าง

Last updated: 3 Apr 2024
4551 Views
9 เทคโนโลยีที่สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ งานแสดงสินค้าคุณดูแตกต่าง

ในโลกของยุคดิจิทัลนี้ เทคโนโลยี ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด และเป็นตัวช่วยในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการนำมาใช้ร่วมกับการจัดงานแสดงสินค้า การออกบูธ การประชาสัมพันธ์ การโฆษณา การจัดงานอีเวนต์ต่างๆ ยิ่งออกแบบบูธมีความทันสมัย หรือ ความแปลกใหม่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ผู้บริโภคมองเห็นถึงความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ และให้ความสนใจกับแบรนด์คุณมากยิ่งขึ้น

วันนี้ Smile Exhibit เลยนำ 9 เทคโนโลยีสุดล้ำมาเป็นแนวทางในการออกแบบบูธ สร้างบูธ ตกแต่งบูธ เพื่อช่วยยกระดับงานแสดงสินค้าของคุณให้แปลกใหม่และสร้างประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครให้กับลูกค้า ดังนี้


1.Artificial Intelligence (ปัญญาประดิษฐ์)

การนำ AI มาโชว์ในงานแสดงสินค้า นอกจากจะช่วยดึงดูดผู้เข้าชมงานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น การใช้หุ่นยนต์ หรืออุปกรณ์อัจฉริยะ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำแก่ผู้เข้าชมงานแล้ว AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดแสดงสินค้าให้คุณได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การเก็บข้อมูลทางการตลาด, การวิเคราะห์ผู้เข้าชมงานเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย, การรวบรวมคำติชมจากลูกค้าที่เป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้จัดบูธสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้หรือพัฒนาในการออกบูธครั้งถัดไป เป็นต้น


2.Touch Technology (เทคโนโลยีระบบสัมผัส)

เทคโนโลยีระบบสัมผัส ถือเป็นเทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นมือถือ, Tablet, smart watch หรือแม้กระทั่งเครื่องแสดงผลในระบบสัมผัส ที่ผู้จัดงานสามารถควบคุมข้อมูลสินค้าที่ต้องการนำเสนอแก่ลูกค้าได้ ด้วยเหตุนี้ การทำป้ายดิสเพลย์ด้วยระบบสัมผัส การแสดงภาพสไลด์สินค้า วิดีโอนำเสนอแบรนด์ การสาธิตวิธีใช้ผลิตภัณฑ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ช่วยสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้าของคุณ


3.Virtual Walls (เทคโนโลยีเสมือนจริง)

ในการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาสร้างสรรค์งานแสดงสินค้า ทำให้ผู้ร่วมงานสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างอิสระผ่านระบบออนไลน์ได้ทุกที่ทั่วโลก และเป็นการมอบประสบการณ์แบบ Immersive Experience ที่เป็นการเชื่อมต่อโลกเสมือนและโลกแห่งความเป็นจริงเข้าด้วยกัน

ซึ่งปัจจุบันการจัดงานแสดงสินค้า หรือการจัดนิทรรศการผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริง ได้รับความนิยมจากผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากการ การทำ Virtual Walls มีส่วนเสริมให้งานมีความน่าสนใจมากขึ้น และยังมีผลต่อการเพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการก่อให้เกิดการเติบโต และสร้างผลกระทบเชิงบวกทางการค้าได้

ยกตัวอย่างที่เราเห็นได้บ่อยๆ คือ การใช้โปรเจ็กเตอร์และหน้าจอ LED สำหรับผู้ร่วมงาน การสร้างกิจกรรมเล่นเกม การปรับแต่งป้ายดิสเพลย์ตามธีมบูธ พร้อมการออกแบบบูธที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ของคุณและมีความน่าดึงดูด

ทั้งนี้ การจัดงานแบบ Virtual Event หรือ Virtual Exhibition สิ่งที่ผู้จัดงานต้องตระหนัก คือ การนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้ในการสร้างประโยชน์หรือผลกำไร รวมทั้งสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ของคุณได้ หากทำสำเร็จเทคโนโลยีเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์แก่ผู้จัดงาน และสร้างความสุขให้ผู้เข้าร่วมงานด้วย


4. เทคโนโลยี AR (Augmented Reality)

เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) มีความโดดเด่นในการช่วยสร้างประสบการณ์เสมือนจริงโดยผู้ใช้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับโลกดิจิทัลได้ผ่านการมอง เสียง และการเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องสัมผัส ทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมได้ง่าย ซึ่งการใช้งานสามารถนำไปใช้ได้หลายด้าน เช่น การนำเสนอสินค้าหรือบริการผ่านกราฟิกที่สร้างจากคอมพิวเตอร์ และนำเสนอผ่าน AR เพื่อให้เห็นภาพเสมือนผ่านแอปพลิเคชันมือถือ, การนำ AR มาช่วยสาธิตผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ ให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถมองเห็น หรือสัมผัสวัตถุเสมือนจริงได้ในรูปแบบของ วิดีโอ ภาพ จากการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์ ผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Headset, Smartphone หรือ Tablet เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้เข้าร่วมงาน


5. เทคโนโลยี VR (Virtual Reality)

VR คือ การจำลองภาพให้เสมือนจริง แบบ 360 องศา ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะต้องใช้ควบคู่ไปกับอุปกรณ์สำคัญ นั่นก็คือแว่นตา VR โดยผ่านการรับรู้ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น เสียง การสัมผัส หรือแม้กระทั่งกลิ่น และทำให้เราสามารถตอบสนองกับสิ่งที่จำลองนั้นได้ ซึ่งปัจจุบัน ผู้เข้าร่วมงานการต่างแสวงหาประสบการณ์ที่มีความแปลกใหม่ และน่าตื่นตาตื่นใจ การใช้ความเป็นจริงเสมือน จึงทำให้บูธมีความพิเศษไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังเป็นเหตุผลให้พวกเขาเริ่มบทสนทนาและรู้จักผลิตภัณฑ์ของคุณได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การนำเทคโนโลยี VR มาใช้ร่วมกับการออกบูธของคุณ ยกตัวอย่างการออกแบบกิจกรรม เพื่อให้ผู้คนได้เข้ามามีปฏิสัมพันธ์ เล่นสนุกร่วมกัน โต้ตอบผ่านระบบการทำงานของซอฟต์แวร์ โดยสามารถสัมผัสวัตถุที่จัดแสดงภายในงาน พร้อมมองเห็นภาพจำลองในรูปแบบเสมือนจริง ทำให้ผู้เข้าชมได้รับประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และมีสีสัน แตกต่างกับงานจัดแสดงสินค้าทั่วไป อีกทั้งการนำเทคโนโลยี VR เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจที่จะดึงดูดให้ผู้เข้าร่วมงานสนใจได้มากยิ่งขึ้น


6. Digital Display (จอแสดงผลดิจิตอล)

ผู้จัดงานแสดงสินค้า ในปัจจุบัน ล้วนหันมาให้บริการด้วยจอแสดงผลดิจิทัลสำหรับการสาธิตผลิตภัณฑ์มากขึ้น ยกตัวอย่าง ป้ายโฆษณาตามริมถนน ป้ายดิสเพลย์ตามบูธนิทรรศการต่างๆ เนื่องจากการนำจอแสดงผลดิจิตอล มาใช้ในการออกบูธ ผู้จัดงานสามารถปรับแต่งจอแสดงผลดิจิทัลแบบเรียลไทม์ได้ และยังสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ สี เสียง เพื่อให้เกิด Dynamic ช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจและการมีส่วนร่วมสำหรับผู้ร่วมงานได้


7. Motion-controlled technology (เทคโนโลยีควบคุมการเคลื่อนไหว)

เทคโนโลยีควบคุมการเคลื่อนไหว สุดยอดความแม่นยำและตอบโจทย์กับผู้จัดงานแสดงสินค้าที่ดีที่สุด จากการสาธิตผลิตภัณฑ์ด้วยอินเทอร์เฟซควบคุมการเคลื่อนไหว ให้ผู้เข้าร่วมสามารถทำท่าทางในการเริ่มหรือหยุดการสาธิตได้ ซึ่งถือเป็นการสร้างเนื้อหาสำหรับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นและสร้างการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมได้ดี



8. Beacon Technology (เทคโนโลยีบีคอน)

Beacon เป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาให้ส่งสัญญาณ bluetooth โดยจะเป็นการส่งคลื่นสัญญาณที่ใช้พลังงานต่ำหรือที่เรียกกันว่า bluetooth 4.0 Low Energy ในระดับความถี่ 2.4 GHz ไปยังอุปกรณ์ของผู้รับโดยอัตโนมัติ

ในการนำมาออกบูธ เทคโนโลยีบีคอน ทำหน้าที่เสมือนพนักงานต้อนรับของแบรนด์ ที่สามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมได้ดีกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ โดยคุณสามารถส่งข้อความโบว์ชัวร์ หรือโปรโมชั่นต่างๆ ไปยังอุปกรณ์ของพวกเขาได้ทันที เพื่อดึงดูดให้ผู้ที่เดินชมงานเข้ามาเยี่ยมชมนิทรรศการของคุณ ช่วยให้คุณสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าหรือคนที่จะมาเป็นลูกค้าเราได้ในอนาคต

ดังนั้นไม่ว่าจะงานอีเวนต์ หรืองานนิทรรศการ ผู้จัดงานต่างก็ต้องสร้างบรรยากาศภายในงาน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกผ่อนคลาย และสนุกกับกิจกรรม เจ้าของกิจการหลายคนจึงหันมาใช้เทคโนโลยีรูปแบบใหม่เข้ามาเป็นตัวช่วยในการออกบูธมากยิ่งขึ้น เช่น การนำเทคโนโลยี Interactive Wall หน้าจออัจฉริยะที่ถูกพัฒนามาจากหน้าจอ Projector ประกอบการนำเสนอสินค้าหรือบริการ ซึ่งมีระบบ Touch Screen สามารถสัมผัสลงบนจอ ทำให้ผู้เข้าชมสามารถเล่นสนุก โต้ตอบ และจำลองภาพเสมือนจริงออกมาได้ในทันที ที่ถือเป็นการมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้ที่มาเดินชมงานและเพิ่มจินตนาการทางความคิดได้มากยิ่งขึ้น



"Smile Exhibit"
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่โลกของการสร้างสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยบรรยากาศผ่อนคลายและเต็มไปด้วยร้อยยิ้ม ด้วยแนวคิดและการออกแบบบูธที่เป็นเอกลักษณ์ และใช้เทคโนโลยีทันสมัย ด้วยความเอาใจใส่และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้กว่า 20 ปี

บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy